(ก๊อปมาจากเว็บpantip ครับ, น่าสนใจดีเลยเอามาฝาก...)
1. อาวุธ (เครื่องมือสัญญาณทางเทคนิค)
2. กลยุทธ์
และ ความเข้าใจในสมรภูมิ (ตลาดหุ้น) ตลอดจนยุทธศาสตร์ ระยะสั้น กลาง ยาว
3. อารมณ์ (การควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ปฏิบัติตามแผน
ตามระเบียบวินัยการลงทุน ตามเป้าหมายระยะสั้น
ยาว ให้เป็นไปและสอดคล้องกันกับยุทธ์ศาสตร์ที่วางเอาไว้)
ปัจจัย
ทั้ง 3 ตัวมีความสำคัญ
เรียงตามลำดับ เพราะถ้าไม่เลือกหาอาวุธที่เหมาะมือไว้ก่อน
ก็ต่อสู้กับเขาไม่ได้ แต่ถ้ามีแต่อาวุธ แต่ไร้กระบวนท่า ก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน
เพราะอาวุธแต่ละประเภทมีข้อจำกัด ตามสถานการณ์และสมรภูมิ
(ไม่มีสัญญาณเทคนิคที่ให้ความแม่นยำถูกต้อง 100%) ดังนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าอาวุธในมือเรา มันจะแผงฤทธิ์
ได้ดีในตอนไหน (สัญญาณลวงทางเทคนิคมักจะเกิดขึ้นในตลาดขาลง
50-60%
แต่เครื่องมือทางเทคนิคจะทำหน้าที่ได้ดี
(ให้สัญญาณจริง 70-80%)
ในตลาดขาขึ้น เพราะฉะนั้น เซียนเทคนิคจึงผุดขึ้นมากมายในตลาดกระทิง
แต่จริงๆ แล้วเป็นเพราะว่าสถานการณ์มันอำนวยชัยมากกว่า
น้อยคนที่จะมีอาวุธคู่ใจหลายๆอัน ดังนั้นแล้ว จงหาอันที่เหมาะมือไว้สัก 2-3 อันไว้ก่อน ก็พอ
แต่เอาให้ชำนาญยุทธ์ ปิดช่องโหว่งซึ่งกันและกัน
และสุดท้ายคือ ปัจจัยเรื่องอารมณ์ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด กระบวนท่าต้องสัมพันธ์กับใจ อารมณ์เป็นสิ่งที่จับต้องได้ยากเพราะฉะนั้น
จึงเข้าถึงและเข้าใจได้ยากเหมือนกัน แต่ถ้ายอมรับในอิทธิพลของมันแล้ว
ก็จะให้ความสำคัญกับมันมากที่สุด นักรบที่เก่งทั้งหลายในสมัยก่อนที่รบแพ้ส่วนใหญ่
มิใช่เพราะว่าตนไร้ฝีมือ ไร้ยุทธวิธี
แต่เป็นความเย่อหยิ่ง ลำพอง ประมาทคู่ต่อสู้ มิฟังคำทัดทานจากผู้อื่น จึงต้องพ่ายแพ้ และบางทีก็ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีก
ดังนั้น
อาวุธ กลยุทธ์ และ
อารมณ์ ต้องให้สัมพันธ์กันตามสถานการณ์ การเคลื่อนไหวที่ไร้ทิศทางสะเปะสะปะ ไร้กระบวนท่า ก็จะได้เป้าหมายแบบลมๆแล้งๆ เช่นกัน
ใครถนัดจะเล่นแบบไหน ใช้สัญญาณอะไร อย่างไรก็แล้วแต่
สิ่งหนึ่งที่บอกว่าเราได้มาถูกทางแล้ว คือ การที่เราได้ทำอะไรที่เราเห็นอยู่ทุกๆวัน
เป็นเรื่องง่ายๆ แต่ได้ผล ยิ่งทำยิ่งง่ายขึ้นแต่เข้าใจ
ไม่ใช่ยิ่งทำยิ่งคิดยิ่งยุ่งยากซับซ้อนออกไป มากไป จนสับสน
เพราะว่าในตลาดหุ้นมันมีความสับสนเป็นสมมุติฐานอยู่แล้ว เรายังไปสับสนต่อเนื่องกับมัน จึงต้องติดกับดับอารมณ์
และกับดับสัญญาณทางเทคนิค ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ในกราฟหนึ่งรูปสามารถอธิบายอะไรๆ
ได้มากมาย ถ้าเราซื่อตรงต่อมัน
เข้าใจมันโดนปราศจากอคติ เพราะมันคือความเป็นจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
ความจริงที่กำหนดทิศทางของตลาด ออกมาจากจิตวิทยามวลชน สัญญาณแต่ละตัวมัน
สะท้อนอารมณ์ความรู้สึก ของมวลชน ทุกอย่างอยู่ในนั้น และ ถ้าอดีตบอกปัจจุบันได้
ปัจจุบันทำนายอนาคตได้ กราฟนี้ก็จะทำหน้าที่อันนี้เช่นกัน
และมันก็บอกว่าอะไรได้เกิดขึ้นแล้ว และทำให้คนสำเร็จและล้มเหลวต่างกันอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น