มีใครเคยได้ยินเรื่องกฎ
10,000 ชั่วโมงบ้างไหมครับ?
กฎนี้มีการกล่าวอ้างโดยผู้มีชื่อเสียงหลายคน
อย่างเช่นในหนังสือ "Outliers:The Story of Success"
ของมัลคอล์ม แกลดเวลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือขายดีก็มีการพูดถึงกฎนี้ไว้เหมือนกัน
มัลคอล์ม แกลดเวลล์เป็นใคร? เราคงไม่พูดถึงเรื่องนี้
เราสนใจในประเด็นที่ว่ากฎ 10,000 ชม.คืออะไรและมีประโยชน์กับคนเล่นเกมแบบพวกเราอย่างไรมากว่า
กฎนี้มีการกล่าวอ้างโดยผู้มีชื่อเสียงหลายคน
อย่างเช่นในหนังสือ "Outliers:The Story of Success"
ของมัลคอล์ม แกลดเวลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือขายดีก็มีการพูดถึงกฎนี้ไว้เหมือนกัน
มัลคอล์ม แกลดเวลล์เป็นใคร? เราคงไม่พูดถึงเรื่องนี้
เราสนใจในประเด็นที่ว่ากฎ 10,000 ชม.คืออะไรและมีประโยชน์กับคนเล่นเกมแบบพวกเราอย่างไรมากว่า
กฎ 10,000 ชม.กล่าวว่า
”หากใครก็ตามได้ฝึกทักษะใดๆ จนครบ 10,000 ชม. คนนั้นๆจะมีความสามารถด้านนั้นในระดับโลกเลยทีเดียว”
...ห้ะ การมีความสามารถในระดับโลก
มันมีกันได้ง่ายๆแค่นี้เองเหรอ?
แค่ทำอะไรก็ตามหมื่นชั่วโมงเราก็จะเก่งระดับโลกกันแล้วงั้นสิ
โอเค
งั้นผมไปฝึกเตะบอลเลยดีกว่า อีก10,000ข้างหน้าจะได้เป็นเมสซีหรือโรนัลโดบ้าง(ฮา)
หากเชื่อกฎหมื่นชม.จำนวนปีกว่าคุณจะฝึกทักษะได้ครบจำนวนชม.นั้น
ขึ้นอยู่กับจำนวนชม.ในหนึ่งวันที่คุณใช้ในการฝึก
เมื่อไล่ตามลำดับดูก็จะเป็นดังนี้
ฝึกวันละ 1 ชม. ใช้เวลา 10000 วัน หรือ
27 ปีกว่าๆ
ฝึกวันละ 2 ชม. ใช้เวลา 5000 วัน หรือ
ราว 14 ปี
ฝึกวันละ 4 ชม. ใช้เวลา 2500 วัน หรือ
ประมาณ 7 ปี
ฝึกวันละ 8 ชม. ใช้เวลา 1250 วัน หรือ
เกือบๆ 4 ปี
...แต่กับคนธรรมดาอย่างพวกเราที่เรียนหรือทำงานไปด้วย
การฝึกอะไรวันละ 8
ชม.นั้นดูจะเกินความเป็นไปได้
เวลาที่เหมาะสมในการฝึกทักษะ
สำหรับคนธรรมดาอย่างเราคือวันละ 2-4 ชม.
ซึ่งก็คือกว่าเราจะเก่งระดับโลกได้ก็กินเวลาประมาณ
7 ปีนั่นเอง
ในหมวดหมู่การกีฬาที่สมรรถภาพทางร่างกายมีความสำคัญมากนั้น
กฎหมื่นชม.นี้ดูจะไม่เป็นมิตรกับคนที่มีอายุเกินกว่า
20
ปีขึ้นไปเสียเท่าไหร่
เพราะนักกีฬานั้น
ช่วงที่พีคที่สุดคือราวๆ 16 –
25 ปี
...พอแก่กว่านี้ต้องเน้นความเก๋าแล้ว ไม่ใช่ความสด
หากทำตามกฎหมื่นชม.กว่าที่คุณจะมีความสามารถ
พอ คุณก็ล่อไป 25 ปีกว่าแล้ว
แม้คุณจะมีทักษะดีพร้อมแต่ความสดคุณมีไม่พอ
โอกาสที่คุณจะเก่งกระฉ่อนโลกก็มีน้อยลง
ดังนั้นคุณจึงพบว่านักกีฬาเก่งๆ
ไม่ว่าจะบาส บอล กอล์ฟ ฯลฯ
ล้วนแต่ได้รับการสนับสนุนจากทางครอบครัวตั้งแต่เด็ก
และฝึกกันหนักถึงหนักมาก
อาจจะเกิน 8 ชม.ด้วยซ้ำไป
เมื่อเริ่มฝึกทุกวันตั้งแต่
10 ขวบ พออายุ 15 ก็ครบ 10000ชม.สบายๆ
และเมื่อมีทักษะบวกความสด
การเป็นนักกีฬาระดับโลกก็เป็นเรื่องไม่เกินเอื้อมนั่นเอง
จุดที่น่าคิดคือในวงการเล่นเกม
สภาพร่างกายไม่ได้มีผลกระทบมากมายเหมือนการเล่นกีฬา
ไม่ว่าจะเป็นเกมกระดานหรือเกมคอมพิวเตอร์
คุณจะอ้วนเทอะทะหรือผอมกะหร่อง
ถ้าฝึกมามากพอ
คุณก็มีโอกาสสู้กับคนอื่นได้เสมอ
ยกเว้นแต่คุณจะเจอประเภทเก่งอัจฉริยะ+มีความพยายามและฝึกมานาน
...อันนั้นก็ต้องยกธงขาวกันไป
โดยเฉพาะในกลุ่มคนเล่นหมากรุก
หรือ หมากล้อม
คุณมักจะได้เจอแชมป์อายุน้อยๆที่สยบคนแก่ผมหงอกที่เล่นมาเป็น10 – 20 ปีได้
ซึ่งเมื่อเจอคนประเภทนี้แล้วแทบอยากเลิกฝึก
เพราะฝึกให้ตายยังไงก็เอาแค่ให้สูสียังทำไม่ได้เลย
ข่าวดีคือเกมอย่าง HON,Battle Field,Starcraft2 หรือเกมคอมพิวเตอร์ เกมคอนโซลต่างๆ
ทุกคนเริ่มฝึกพร้อมกันหมด
ในวันที่เกมเริ่มออกวางจำหน่าย
ดังนั้นทุกคนจึงเสมอภาคกันในเรื่องจุดสตาร์ท
ส่วนใครจะเก่งเหนือกว่าใครก็ขึ้นอยู่กับชม.การฝึกหลังจากเกมออกมาแล้วนั่นเอง
ผมคิดว่าการเล่นเกมอะไรก็ตามให้ครบ
10000
ชม.นั้น
ความรัก
ความชอบในตัวเกมเป็นประเด็นหลักที่เราควรคิดให้ดีๆก่อนจะเลือกเกมเล่น
โดยเฉพาะคนที่จะเลือกเกมฝึกเพื่อเข้าแข่งขันE-sportในระดับประเทศหรือระดับโลก
ถ้าคุณไม่มีความรัก
ความชอบในเกมนั้นๆ สักแต่ว่าฝึกๆเพื่อเข้าแข่งชิงรางวัล
คุณจะฝึกได้ไม่นาน
ฝึกได้ไม่ทน เพราะคุณไม่ได้รักในตัวเกมที่คุณเล่น
สุดท้ายคุณก็สู้คนอื่นที่ฝึกเล่นเพราะความรักความชอบในเกมนั้นไม่ได้
เอาเข้าจริงการเล่นเกมให้ครบ
10000
ชม.นั้นดูเป็นเรื่องที่ไม่ลำบากเท่าไหร่
เพราะเกมมันเต็มไปด้วยความสนุกและพวกเราก็พร้อมใจกันไปฝึกอยู่แล้ว(ฮา)
อนาคตเมื่อการแข่ง E-Sport เช่น HON,LOL มีผู้เล่นระดับ
10000
ชม.มาฟาดฟันกันเยอะๆ
เราน่าจะได้เห็นแมทซ์ระดับตำนานกันอีกหลายคู่เลยแหละ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น