1. ราคาหุ้นจะขึ้นลงในลักษณะเป็นคลื่นไม่ใช่เส้นตรง
จากรูปจะเห็นว่าราคานั้นจะเป็นคลื่นที่เคลื่อนไหวเป็น
Trend
ขาขึ้น(สีเขียว) หรือขาลง (สีแดง) ดังนั้นสิ่งที่เราๆ ทำได้คือตาม Trend
เมื่อขาขึ้นก็ซื้อขาลงก็ขายทำกำไร
คนส่วนมากไม่เข้าใจว่าราคานั้นจะเป็นคลื่นเข้าใจว่าเป็นเส้นตรง
ถ้าขาขึ้นซื้อหุ้นแล้วต้องได้กำไรไปเรื่อยๆ
แต่ในความจริงอาจจะมีบางช่วงบางตอนที่ขาดทุน แต่ไม่ต้องซีเรียสครับถ้าเราตาม Trend
ได้ถูก ช่วงที่ขาดทุนก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ
ดังนั้นไม่ต้องรู้สึกวิตกว่าทำไมหุ้นตัวที่เราซื้อนั้นไม่วิ่งหรือขาดทุนในระยะแรกๆ
ครับ ทนถือต่อไปครับ ^ ^
2. เราไม่มีทางซื้อที่ราคาถูกสุดและขายที่ราคาสูงสุดได้
จากรูปจะเห็นจุดที่วงกลมไว้จุดนั้นคือราคาต่ำสุดและราคาสูงสุดของรอบนั้นๆ
คนส่วนใหญ่ต้องการที่จะซื้อและขายที่จุดนี้ซึ่งเป็นไปได้น้อยมาก
คนที่ทำได้ก็อาจจะมีครับแต่อาศัยดวงนะครับ :P
บางคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่สามารถทำได้ยังไงลองถามคำถามตัวเองสองข้อนี้ก่อนครับ
1)
ทำไมเราถึงรู้ว่าจุดนั้นเป็นจุดต่ำสุด? 2) ทำไมเราถึงรู้ว่าจุดนั้นเป็นจุดสูงสุด?
คำตอบก็คือ 1) เพราะว่าราคาได้เลยจุดต่ำสุดมาแล้วจนเปลี่ยนเป็นขาขึ้นอีกรอบ
2) เพราะว่าราคาได้เลยจุดสองสุดมาแล้วจนเปลี่ยนเป็นขาลงอีกรอบ
นั่นคือเหตุผลที่เราไม่สามารถซื้อที่จุดต่ำสุดและขายที่จุดสูงสุดได้ครับ
สิ่งที่เราทำได้คือซื้อขายในช่วงกรอบสีน้ำเงินในรูปครับ
ซึ่งแน่นอนว่าบางคนอาจคิดเสียดายตรงจุดสูงสุดว่าเราน่าจะขายจะได้กำไรสูงสุดก็อย่างว่าครับไม่สามารถทำได้ดังนั้นอย่าไปเสียดายเลยครับกำไรน้อยยังไงก็ยังกำไรนี่ครับ
^
^
3. Let profit run and cut lost to
protect capital
ย้ำอีกครั้งนะครับว่า Let
profit run and cut lost ไม่ใช่ Let lost run and cut profit
นะครับ คนส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้จริงๆ ครับ เวลาได้กำไรนิดๆ หน่อยๆ
แล้วชอบรีบขายกลัวว่าจะขาดทุนแต่พอขาดทุนก็ถือต่อแล้วคิดว่าเดี๋ยวมันก็กลับมาเท่าทุน
(ทั้งที่จริงๆ อาจจะเสียหายหนักกว่าเดิมก็ได้ครับ) ฉะนั้นวินัยสำคัญที่สุดครับ การ
cut lost ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละคนครับ
อาจจะกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ได้ครับอย่างเช่น 10% ถ้าขาดทุนเท่านี้แล้วไม่ว่าจะเป็นยังไงต้องขายก่อนครับเพื่อรักษาเงินทุนไว้
อีกครั้งนะครับอยากได้กำไรในระยะยาวต้องรักษาวินัยครับ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: www.stock2morrow.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น